ตะกร้า

ไขปริศนาคาเฟอีนในกาแฟแก้วโปรด

อยากรู้ไหมว่ากาแฟแก้วโปรดของคุณมีคาเฟอีนเท่าไหร่? เจาะลึกปริมาณคาเฟอีนในกาแฟแต่ละชนิด เช่น กาแฟดริป เอสเพรสโซ่ โคลด์บรูว์ และปัจจัยที่มีผลต่อคาเฟอีน ค้นหา เมล็ดกาแฟ กาแฟคั่วบด กาแฟดริป คุณภาพจาก The Coffee Bean Roasting

 

สำหรับคอกาแฟตัวจริงอย่างเราๆ ที่ The Coffee Bean Roasting เชื่อว่าหลายคนคงเคยสงสัยว่าในกาแฟแต่ละแก้วที่เราดื่มนั้นมีปริมาณคาเฟอีนอยู่เท่าไหร่กันแน่ เพราะคาเฟอีนนี่แหละคือพระเอกที่ช่วยให้เราตื่นตัว โฟกัส และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าในทุกๆ วัน แต่รู้ไหมว่าปริมาณคาเฟอีนในกาแฟแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่ เมล็ดกาแฟ ไปจนถึงวิธีการชงเลยทีเดียว

   

วันนี้ The Coffee Bean Roasting จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องคาเฟอีนในกาแฟแต่ละประเภท พร้อมไขข้อข้องใจยอดฮิตที่คอกาแฟต้องรู้!

   

คาเฟอีนแตกต่างกันไปตามชนิดของเมล็ดกาแฟ

   

หัวใจหลักที่กำหนดปริมาณคาเฟอีนเริ่มต้นคือชนิดของ เมล็ดกาแฟ ที่ใช้ โดยหลักๆ แล้วมีอยู่สองสายพันธุ์ยอดนิยมคือ อาราบิก้า (Arabica) และ โรบัสต้า (Robusta)

   

           
  • เมล็ดกาแฟโรบัสต้า ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณคาเฟอีนที่สูงกว่า เมล็ดกาแฟอาราบิก้า อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมของเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดนั่นเอง
  •    

   

ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟยอดนิยมสกัดแบบต่างๆ

   

วิธีการสกัดกาแฟที่แตกต่างกันก็ส่งผลต่อปริมาณคาเฟอีนในแก้วอย่างมีนัยสำคัญ มาดูกันว่ากาแฟแต่ละแบบมีคาเฟอีนประมาณเท่าไหร่:

   

           
  • กาแฟชง (Brewed Coffee): การชงแบบดริปหรือผ่านฟิลเตอร์ที่เราคุ้นเคย โดยใช้น้ำร้อนสกัดจาก กาแฟคั่วบด ปกติแล้ว กาแฟชง 1 แก้ว (ประมาณ 180 มิลลิลิตร) จะมีคาเฟอีนประมาณ 70-100 มิลลิกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของ เมล็ดกาแฟ และระดับการคั่วด้วย
  •        
  • เอสเพรสโซ่ (Espresso): เจ้าแห่งความเข้มข้นที่สกัดด้วยแรงดันสูงจาก กาแฟคั่วบด ที่บดละเอียดและอัดแน่น แม้ช็อตเอสเพรสโซ่จะมีปริมาตรน้อย (ประมาณ 30 มิลลิลิตร) แต่มีปริมาณคาเฟอีนต่อปริมาตรสูงมาก โดยเฉลี่ยประมาณ 60-80 มิลลิกรัมต่อช็อต ซึ่งมากกว่ากาแฟชงในปริมาตรที่เท่ากัน
  •    

   

       

ชมคลิปแนะนำสูตรเอสเย็นจาก The Coffee Bean Roasting:

           

   

           
  • โคลด์บรูว์ (Cold Brew): กาแฟสกัดเย็นที่ใช้เวลาในการบ่ม กาแฟคั่วบด กับน้ำเย็นเป็นเวลานาน แม้การชงด้วยความร้อนจะสกัดคาเฟอีนได้เร็วกว่า แต่การสกัดแบบเย็นที่ใช้เวลานานก็สามารถดึงคาเฟอีนออกมาได้ในปริมาณที่ใกล้เคียงกับกาแฟชงร้อน หรือบางครั้งอาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ โคลด์บรูว์ 1 แก้ว (ประมาณ 350 มิลลิลิตร) อาจมีคาเฟอีนได้ถึง 150-250 มิลลิกรัม
  •        
  • ลาเต้ (Latte): เมนูกาแฟนมยอดนิยมที่มีส่วนประกอบหลักคือช็อตเอสเพรสโซ่ 1-2 ช็อต ผสมกับนมสดและฟองนม ปริมาณคาเฟอีนในลาเต้จึงขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตของเอสเพรสโซ่ที่ใช้ โดยทั่วไปลาเต้ 1 แก้วขนาดปกติจะมีคาเฟอีนประมาณ 60-160 มิลลิกรัม
  •        
  • กาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee): กาแฟที่ผ่านกระบวนการแปรรูปให้เป็นผงหรือเกล็ด สามารถชงได้ง่ายๆ ด้วยน้ำร้อน ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟสำเร็จรูปมักจะน้อยกว่ากาแฟที่ชงจาก กาแฟคั่วบด เล็กน้อย โดยเฉลี่ยประมาณ 50-70 มิลลิกรัมต่อแก้ว (180 มิลลิลิตร)
  •        
  • กาแฟดีแคฟ (Decaf Coffee): กาแฟที่ผ่านกระบวนการสกัดคาเฟอีนออกไปส่วนใหญ่ ทำให้มีปริมาณคาเฟอีนเหลือน้อยมากๆ หรือแทบไม่มีเลย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงคาเฟอีน กาแฟดีแคฟ 1 แก้วจะมีคาเฟอีนไม่เกิน 3 มิลลิกรัม
  •    

   

ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อปริมาณคาเฟอีน

   

นอกจากชนิดของ เมล็ดกาแฟ และวิธีการชงแล้ว ปัจจัยเหล่านี้ก็มีส่วนกำหนดปริมาณคาเฟอีนในแก้วของคุณ:

   

           
  • ระดับการคั่ว (Roast Level): เชื่อกันว่าระดับการคั่วก็มีผลต่อคาเฟอีน โดยทั่วไปแล้ว กาแฟคั่วอ่อนอาจมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟคั่วเข้มเล็กน้อย เนื่องจากกระบวนการคั่วที่อุณหภูมิสูงและเวลานานขึ้นอาจทำให้คาเฟอีนบางส่วนสลายไป อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างนี้มักจะไม่มากนัก
  •        
  • ความละเอียดของการบด (Grind Size): การบดกาแฟละเอียดขึ้นจะเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสระหว่างผงกาแฟกับน้ำ ทำให้สกัดคาเฟอีนออกมาได้มากขึ้น
  •        
  • อัตราส่วนกาแฟต่อน้ำ (Coffee to Water Ratio): ยิ่งใช้อัตราส่วน กาแฟคั่วบด ต่อน้ำมากขึ้น กาแฟที่ได้ก็จะยิ่งเข้มข้นและมีคาเฟอีนสูงขึ้น
  •        
  • เวลาในการสกัด (Brew Time): ระยะเวลาที่น้ำสัมผัสกับผงกาแฟก็มีผล โดยเฉพาะในวิธีการชงที่ใช้น้ำร้อน การสกัดที่นานขึ้นมักจะดึงคาเฟอีนออกมาได้มากขึ้น
  •    

   

ปริมาณคาเฟอีนที่แนะนำต่อวัน

   

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่สามารถบริโภคคาเฟอีนได้อย่างปลอดภัยในปริมาณไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับกาแฟประมาณ 3-4 แก้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมสำหรับตนเอง

   

ที่ The Coffee Bean Roasting เรามี เมล็ดกาแฟ คุณภาพดีหลากหลายชนิด ทั้ง เมล็ดกาแฟคั่วบด และ กาแฟดริป พร้อมให้คุณเลือกสรรเพื่อสร้างสรรค์กาแฟแก้วโปรดที่ตอบโจทย์ทั้งรสชาติและปริมาณคาเฟอีนที่คุณต้องการ ลองเลือก เมล็ดกาแฟไทย คุณภาพเยี่ยมจากแหล่งต่างๆ ในประเทศไทยที่เราคัดสรรมาอย่างดี แล้วมาค้นพบสุนทรียภาพแห่งการดื่มกาแฟที่ใช่ในแบบของคุณกับ The Coffee Bean Roasting นะคะ!