ตะกร้า

วิธีชงกาแฟที่บ้านให้อร่อยดียิ่งขึ้น

การชงกาแฟที่บ้านไม่ได้ซับซ้อนเท่าที่คิด และการเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมอาจทำให้คุณได้รสชาติที่เทียบเท่ากับกาแฟที่คุณหาในร้านกาแฟได้ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้

การชงกาแฟที่บ้านไม่เพียงแค่เป็นกิจกรรมที่น่าสนุกและเติบโตขึ้นในทุกวันในชีวิตประจำวัน แต่ยังเป็นวิถีการดื่มกาแฟที่ให้ความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและคุณภาพของกาแฟที่ได้รับอีกด้วย

ปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆ เหล่านี้ และคุณจะได้กาแฟที่ชงเองที่มีคุณภาพและรสชาติที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน!

1. ความสำคัญของเมล็ดกาแฟคั่วสด

การชงกาแฟที่บ้านเริ่มต้นด้วยการเลือกใช้กาแฟสดที่มีคุณภาพ การใช้กาแฟคั่วสดใหม่ จะให้กลิ่นหอมช่วยเพิ่มรสชาติที่เข้มข้นและทรงพลัง คุณสามารถเลือกชื้อเมล็ดกาแฟที่ชอบจากโรงคั่วกาแฟที่คุณไว้ใจ  เพื่อรับรสชาติที่แท้จริงที่สุด 

การคั่วกาแฟมีผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟ เมล็ดกาแฟคั่วจะมีลักษณะรสชาติที่เปลี่ยนแปลงได้ตามพื้นที่ที่ปลูก สภาพอากาศ การเติบโตของพืช และสภาพดิน ผลลัพธ์ของการคั่วกาแฟที่มีรสชาติที่แตกต่างกันจึงทำให้มีผู้คนที่หลงใหลในการชงและดื่มกาแฟที่มาจากการบดใหม่จากเมล็ดกาแฟคุณภาพดี

2. คุณภาพของน้ำที่ทำให้ชงกาแฟได้อย่างเหมาะส

ความสำคัญของการใช้น้ำที่สะอาดมีแร่ธาตูและอุณหภูมิที่เหมาะสมในการชงกาแฟเป็นสิ่งสำคัญที่จะมอบประสบการณ์การชงที่ดีที่สุด อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมสำหรับการชงกาแฟมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลต่อรสชาติและคุณภาพของกาแฟ  กาแฟที่ได้รับ อุณหภูมิที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวิธีการชงและประเภทของกาแฟที่ใช้ แต่มักใช้อุณหภูมิสำหรับชงกาแฟอยู่ในช่วงประมาณ 195°F - 205°F (ประมาณ 90°C - 96°C).

น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับจุดเดือด (100°C) จะช่วยให้สกัดสารประกอบต่างๆจากเมล็ดกาแฟ อย่างไรก็ตาม การชงกาแฟแต่ละแบบอาจมีอุณหภูมิที่ต้องการแตกต่างกัน:

  • Espresso: ใช้อุณหภูมิน้ำที่สูง ประมาณ 195°F - 205°F (ประมาณ 90°C - 96°C) เพื่อสกัดกาแฟให้ได้รสชาติและความเข้มข้นที่เหมาะสม
  • Pour-Over หรือ Drip Coffee: ส่วนใหญ่ใช้อุณหภูมิประมาณ 200°F (ประมาณ 93°C) เพื่อการสกัดที่ดีและมีความสมดุลของรสชาติ
  • French Press: อุณหภูมิสามารถตกไปได้ที่ประมาณ 195°F (ประมาณ 90°C) เนื่องจากกระบวนการชงนานนิดหน่อยสำหรับความเข้มข้นและรสชาติที่เข้มข้นของกาแฟ

 

การควบคุมอุณหภูมิน้ำที่ใช้ในการชงกาแฟสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการสกัดรสชาติและความหอมของกาแฟ แนะนำให้ใช้ประมาณเท่าที่กำหนดไว้ข้างต้นเพื่อให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละวิธีการชงกาแฟ.

3. เครื่องบดเมล็ดกาแฟ

เครื่องบดกาแฟที่ดีถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการชงกาแฟ ขนาดของอนุภาคกาแฟบดมีผลต่อความเร็วในการสกัดรสชาติจากเมล็ดกาแฟ อนุภาคที่เล็กกว่าจะสกัดรสชาติได้เร็วกว่าอนุภาคที่ใหญ่กว่า

เครื่องบดกาแฟ ที่มีเฟืองบดแบบจาน (หรือเรียกว่า Burr)  เป็นเครื่องบดกาแฟที่ใช้ในกระบวนการบดเมล็ดกาแฟ  เฟืองบดแบบเบอร์มักออกแบบมาเพื่อให้สามารถปรับได้เพื่อให้เหมาะสมกับการบดกาแฟได้ตามต้องการ ความสำคัญของเครื่องบดแบบ Burr คือความสามารถในการสกัดรสชาติและกลิ่นจากเมล็ดกาแฟได้อย่างเต็มที่ ด้วยการบดที่มีความสม่ำเสมอและแม่นยำ เมื่อเทียบกับเครื่องบดแบบใบมีด (หรือ Blade) ที่มีใบมีคมที่หมุนเพื่อสับหรือบดเมล็ด ทำให้มีความแตกต่างในการควบคุมความละเอียดของการบดและคุณภาพของผลลัพธ์ที่ได้

การบดกาแฟด้วยเครื่องบดแบบ Burr ช่วยให้สามารถปรับความละเอียดของการบดตามระดับที่ต้องการ เช่น บดเป็นฝุ่นละเอียดหรือบดให้เป็นเม็ดใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำกาแฟแบบต่างๆ เช่น Espresso, French Press, Aeropress, หรือ Pour-Over ซึ่งแต่ละวิธีการชงกาแฟต้องการความละเอียดในการบดที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้รสชาติและคุณภาพที่ต้องการในแต่ละวิธีการชงกาแฟต่างๆ อย่างเหมาะสม.

 

4. เครื่องชั่งน้ำหนัก

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการชงกาแฟเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากเครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบเฟืองบดแล้วเครื่องชั่งที่แม่นยำ เป็นอุปกรณ์ที่ควรมีเพื่อให้ได้กาแฟที่ถูกใจและได้คุณภาพ การเลือกเครื่องชั่งน้ำหนัก อยู่ที่ความต้องการและการใช้งานของแต่ละคน มีหลายประเภทของเครื่องชั่งที่มีคุณสมบัติต่างกัน ดังนี้:

  • เครื่องชั่งดิจิตอล: เครื่องชั่งที่ใช้แสดงน้ำหนักในรูปแบบดิจิตอล มักมีความแม่นยำสูง สามารถทำงานได้รวดเร็ว มักมีฟังก์ชั่นเพิ่มเติม เช่น การวัดแบบอัตโนมัติหรือการกำหนดหน่วยน้ำหนักต่าง ๆ แต่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับความทนทาน และความทนต่อความชื้น
  • เครื่องชั่งแบบมือหมุน (Manual Scales): เครื่องชั่งที่ใช้เทียบน้ำหนักด้วยการหมุนส่วนหนึ่งของเครื่อง มักมีความคงทนและไม่ต้องการแบตเตอรี่ แต่อาจมีความไม่แม่นยำเท่าเครื่องชั่งดิจิตอล
  • เครื่องชั่งกระเป๋าหรือเครื่องชั่งแบบพกพา: เครื่องชั่งที่มักมีขนาดเล็กและสะดวกต่อการพกพา เหมาะสำหรับผู้ที่ชงกาแฟตอนออกเดินทาง อย่างไรก็ตามอาจจะมีความแม่นยำไม่เท่าเครื่องชั่งที่ใช้ในบ้านหรือร้านกาแฟ
  • เครื่องชั่งสำหรับกาแฟ: มีบางรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานด้านกาแฟโดยเฉพาะ มักมีความละเอียดและความแม่นยำสูง สามารถปรับค่าหรือตั้งค่าที่ต้องการได้ในการชั่งกาแฟอย่างแม่นยำ

 

เมื่อคุณเลือกเครื่องชั่ง ควรพิจารณาถึงความแม่นยำในการชั่ง การควบคุมความแม่นยำและความทนทานของเครื่อง โดยเฉพาะในสภาวะที่มีความชื้นสูง เน้นเลือกเครื่องที่ให้ความแม่นยำและเป็นไปตามความต้องการในการชงกาแฟของคุณได้ดีที่สุด.

5. ชงกาแฟให้ที่สมบูรณ์ด้วยปริมาณกาแฟที่เหมาะสม

ผู้ชงกาแฟที่บ้านมีโอกาสในการปรับแต่งการชงให้เข้ากับความชอบของตนเอง เริ่มต้นจากเลือกวิธีการชงที่ถูกใจและปรับแต่งเวลาการชง อุณหภูมิ หรือสัดส่วนน้ำกาแฟเพื่อให้ได้รสชาติที่ตรงตามความต้องการ ปริมาณกาแฟที่เหมาะสมสำหรับการชงกาแฟแต่ละวิธีอาจแตกต่างกัน เนื่องจากแต่ละวิธีการชงกาแฟมีความสามารถในการดึงรสชาติและสารสกัดจากกาแฟให้แตกต่างกันด้วย ตัวอย่างการใช้ปริมาณน้ำสำหรับชงกาแฟกับอุปกรณ์ในรูปแบต่างๆ:

  • Espresso: ปริมาณกาแฟที่เหมาะสมสำหรับการชง Espresso มักอยู่ที่ประมาณ 18-20 กรัมของกาแฟคั่วบด สำหรับหนึ่งช็อตของ Espresso (ประมาณน้ำกาแฟ 30-35 มล. เมื่อช็อตเสร็จสิ้น) ความสัมพันธ์นี้ช่วยให้ได้รสชาติและความเข้มข้นของ Espresso ที่เหมาะสม
  • Pour-Over (V60, Chemex): โดยปกติมักจะใช้อัตรส่วนกาแฟต่อน้ำ อยู่ที่ประมาณ 1:15 ถึง 1:17 สำหรับการชง 1 ครั้ง จะใช้ปริมาณกาแฟคั่วบด 15 -17 กรัม และใช้น้ำสำหรับชงกาแฟอยู่ที่ 250 มล. 
  • French Press: สำหรับ French Press, อัตราส่วนปริมาณกาแฟที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 1:12 ถึง 1:16 (น้ำต่อกาแฟ) หรือประมาณ 55-60 กรัมของกาแฟคั่วบดต่อ 1 ลิตรของน้ำ
  • Aeropress: อัตราส่วนปริมาณกาแฟที่เหมาะสำหรับ Aeropress มักอยู่ที่ 1:14 (น้ำต่อกาแฟ) หรือประมาณ 14-15 กรัมของกาแฟคั่วบดต่อ 200 มล. ของน้ำ

 

ารปรับปริมาณกาแฟที่ใช้ในแต่ละวิธีการชงจะมีผลต่อความเข้มข้นและรสชาติของกาแฟที่ได้ ควรทดลองปรับปริมาณตามความชอบส่วนตัวและประสบการณ์ในการชงเพื่อหาสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ.

การชงกาแฟที่บ้านไม่เพียงแค่เป็นการดื่มกาแฟเพื่อความตื่นตัวและการกระตุ้น แต่เป็นกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์และความสุขในชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพและความพึงพอใจสูงสุด เป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการชง การทดลองกับวิธีการชงที่แตกต่างกันเพื่อเรียนรู้และเข้าใจรสชาติที่เกิดขึ้นจากแต่ละวิธีการ อย่าลืมแชร์และการแบ่งปันประสบการณ์การชงกาแฟผ่านสื่อออนไลน์หรือแชร์กับคนที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ในการดื่มกาแฟให้full feel ขึ้น!!

ค้นหากาแฟที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย จากแหล่งผลิตเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดในไทย
โดย The Coffee Bean Roasting โรงคั่วกาแฟ แบรนด์กาแฟไทย
จำหน่ายกาแฟคั่วบด กาแฟไม่มีคาเฟอีน เมล็ดกาแฟคั่ว เมล็ดกาแฟไทย กาแฟดริป
เมล็ดกาแฟ เอสเพรสโซ บริการรับผลิตกาแฟแบรนด์ตัวเอง

โทรศัพท์ : 02-935-7631-4
LINE : https://line.me/ti/p/~@tcbrcoffee
Facebook : https://www.facebook.com/thecoffeebeanroasting
E-Mail : [email protected]