ข้อแตกต่างของกาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) กับกาแฟปกติ

June 7, 2023 The Coffee Bean Roasting

ข้อแตกต่างของกาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) กับกาแฟปกติ

หายสงสัย! ข้อแตกต่างระหว่างกาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) กับกาแฟปกติ เหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร?

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ต้องยอมรับเลยว่าเป็นเครื่องดื่มที่หลาย ๆ คนนั้นชื่นชอบ และขาดไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่มีอายุในช่วงวัยทำงานขึ้นไป เพราะกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยทำให้ร่างกายมีความตื่นตัว ช่วยรีเฟรชร่างกายให้มีความสดชื่นมากขึ้น หลาย ๆ คนเลือกดื่มกาแฟในช่วงเช้าก่อนการเริ่มงานอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว หรือบางคนอาจจะดื่มวันละ 2-3แก้วต่อวัน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าในกาแฟนั้นมีคาเฟอีนเป็นส่วนช่วยให้ร่างกายตื่นตัว และลดความง่วงได้ดี ซึ่งเมล็ดกาแฟนั้นถือว่าเป็นพืชที่เป็นแหล่งของกาเฟอีนที่ใหญ่ที่สุด แต่โดยปกติแล้วร่างกายคนเรานั้นควรได้รับคาเฟอีนไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งกาแฟหนึ่งแก้วนั้นจะมีคาเฟอีนเป็นปริมาณพื้นฐานอยู่ที่ 150 มิลลิกรัมต่อแก้ว กาแฟแต่ละเมนูนั้นก็จะมีปริมาณคาเฟอีนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นเราไม่ควรดื่ม หรือบริโภคกาแฟ เกินวันละ 2 แก้ว เพราะที่ร่างกายรับคาเฟอีนมากเกินไปจะทำให้เสี่ยงเกิดอันตรายได้ เพราะหลาย ๆ คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการพัฒนา และมีการผลิตกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) ออกมา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค วันนี้ The Coffee Bean Roasting จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) เหมือน หรือต่างจากกาแฟปกติยังไง?

กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) คืออะไร?
กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) โดยมีชื่อเต็ม ๆ Decaffeinated Coffee หมายถึง กาแฟที่สกัดคาเฟอีนนั่นเอง และที่น่าทึ่งเกี่ยวกับกาแฟไม่มีคาเฟอีนหรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) นั่นก็คือกาแฟสกัดคาเฟอีนเกิดขึ้นมามากกว่า 200 ปีมาแล้ว แต่พึ่งเริ่มเป็นที่นิยมบริโภค หรือดื่มกาแฟสกัดคาเฟอีนนี้กันอย่างแพร่หลายในช่วงปี 1906 ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศแถบตะวันตกเป็นอย่างมาก หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่ากาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) เป็นกาแฟที่มาจากเมล็ดกาแฟที่ถูกเอาคาเฟอีนออกอย่างน้อย 97% นั่นหมายความว่ากาแฟนี้จะมีเพียง 0-3% ต่อกาแฟหนึ่งแก้วเท่านั้น

ดังนั้นกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีนจึงไม่ปราศจากคาเฟอีนโดยสิ้นเชิง แต่ปริมาณคาเฟอีนจะน้อยลงอย่างมาก โดยวิธีการในการสกัดคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟมีทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน
-การละลายเอาคาเฟอีนออกด้วยน้ำ (Swiss Water Decaffeination Process)
-การละลายเอาคาเฟอีนออกด้วยตัวทำละลายอินทรีย์ (Chemical Decaffeination Process)
-การละลายเอาคาเฟอีนออกด้วยคาร์บอนไดออกไซต์ (Co2 Decaffeination Process)

ซึ่งวิธีการต่าง ๆ นั้นก็เป็นการพัฒนากาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) มาเรื่อย ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน(Decaf Coffee) แตกต่างกันกาแฟปกติอย่างไร?
กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee): แน่นอนความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) และกาแฟแบบปกตินั่นก็คือ ปริมาณของคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั่นเอง ซึ่งปริมาณในกาแฟไม่มีคาเฟอีนที่หายไปมากถึง 97% เมื่อเทียบกับกาแฟที่มีคาเฟอีนแบบปกติ กาแฟไม่มีคาเฟอีนอาจะมีกลิ่น และรสชาติที่ต่างไปจากกาแฟแบบปกติเล็กน้อย แต่กาแฟไม่มีคาเฟอีนจะไม่ส่งผลทำร้าย หรือสะสมให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ข้อดีของกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee)

กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด เพราะว่าการดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่ร่างกายอ่อนไหวต่อคาเฟอีน กาแฟไม่มีคาเฟอีนช่วยลดอาการใจสั่น ปวดศีรษะ และสามารถดื่มได้หลายแก้วโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอาการเหล่านี้ตามมา
กาแฟไม่มีคาเฟอีนหรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกับกาแฟปกติ
กาแฟไม่มีคาเฟอีนหรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) ช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการเกิดโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคนิ่วในถุงน้ำดี และโรคมะเร็ง - กาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) มีสารอาหารที่ช่วยทำให้ผิวพรรณสุขภาพดี

กาแฟที่มีคาเฟอีนแบบทั่วไป: กาแฟทั่วไปจะมีปริมาณกาแฟ 150 มิลลิกรัมต่อแก้ว ซึ่งแตกต่างกับกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) อย่างเห็นได้ชัด แต่กาแฟที่มีคาเฟอีนในปริมาณที่สูงนั้น มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายเกิดความตื่นตัว และมีคุณสมบัติในการช่วยลดความง่วงได้ดื่มแล้วจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า กาแฟที่มีคาเฟอีนเหมาะสำหรับกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องการสร้างความสดชื่น ซึ่งแต่ละกาแฟแต่ละเมนูก็จะมีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน หากว่าดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการใจสั่นได้ เพราะฉะนั้นควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะจะดีที่สุด

ข้อดีของกาแฟที่มีคาเฟอีนแบบทั่วไป

กาแฟที่มีคาเฟอีนช่วยให้ร่างกาย เเละสมองตื่นตัว พร้อมเริ่มต้นวันกับวันทำงาน และช่วยให้มีสมาธิในการทำงานได้ดี
กาแฟที่มีคาเฟอีนมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนประกอบ มีส่วนช่วยป้องกันการเกิด โรคเบาหวาน มะเร็งลำไส้ใหญ่ นิ่วในถุงน้ำดี เป็นต้น

และนี้ก็คือความแตกต่างระหว่างกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) เและกาแฟปกติทั่วไป ซึ่งความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนคือปริมาณของคาเฟอีน ซึ่งกาแฟไม่มีคาเฟอีนนี้เป็นทางเพื่อสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่ารสชาติ และกลิ่นอาจจะไม่เทียบเท่ากาแฟที่มีคาเฟอีนทั่วไปซะทีเดียว แต่ก็แลกมาด้วยผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นกาแฟไม่มีคาเฟอีนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี และมีประโยชน์สำหรับคนติดกาแฟเป็นอย่างมาก

The Coffee Bean Roasting ขอแนะนำกาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaf Coffee) จากแบรนด์ นิช คอฟฟี่ โรสเตอร์ ที่ถูกอกถูกใจสายกาแฟมายาวนาน ส่วนใครที่อยากดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟแท้ ๆ คาเฟอีนเต็ม ๆ และมองหาเมล็ดกาแฟคั่วบด กาแฟคั่วบดที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อยแบบพรีเมี่ยม ที่ The Coffee Bean Roasting ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเมล็ดกาแฟคั่วบด กาแฟคั่วบด เราบริการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟคั่วบด และกาแฟดริป จากเมล็ดกาแฟไทย, เมล็ดกาแฟเอสเพรสโซ, เมล็ดกาแฟอาราบิก้า, กาแฟไม่มีคาเฟอีน, กาแฟดริป อีกทั้งเรายังนำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศสำหรับคั่วตามสั่ง เรามีนักคั่วกาแฟที่มีประสบการณ์กว่า 26 ปี มีความชำนาญเกี่ยวกับศาสตร์ด้านกาแฟ ตั้งแต่ขั้นตอนคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ ไปจนถึงบริการรับคั่วกาแฟ รับผลิตกาแฟแบรนด์ตัวเองให้บริการครบวงจร ตั้งแต่สร้างโปรไฟล์การคั่ว ให้คำแนะนำในการออกแบบฉลากสินค้าให้ถูกต้องสำหรับวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ไปจนถึงชำระเงินค่าธรรมเนียมจด อย.